
วิธีเพิ่มมูลค่าให้กับฉลากสินค้าและบรรจุภัณฑ์
วัตถุประสงค์ของการประดับตกแต่งสิ่งพิมพ์อย่างฉลากสินค้าและบรรจุภัณฑ์คือการ เพิ่มมูลค่า ให้กับสินค้า ด้วยการออกแบบที่สวยงาม ดึงดูดความสนใจ มองดูสะดุดตา และโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งเมื่ออยู่บนชั้นวาง
บทบาทของฉลากสินค้าและบรรจุภัณฑ์เป็นเสมือนเครื่องมือทางการตลาดหนึ่งที่สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันและเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่งจากเจ้าของแบรนด์สินค้า จนบางครั้งฉลากสินค้าและบรรจุภัณฑ์นั้นกลายเป็นงานศิลป์ชิ้นหนึ่ง ที่มีกระบวนการพิมพ์ของโรงพิมพ์ วัสดุ และ สิ่งที่ใช้ประดับตกแต่ง มากมายถูกใช้ประกอบกับการออกแบบอย่างซับซ้อนและน่าตื่นตาตื่นใจ
1. ออกแบบฉลากให้โดดเด่นและเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
การออกแบบฉลากสินค้าควรใช้สีสันและรูปแบบที่สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น สีสดใสสำหรับกลุ่มเด็ก หรือดีไซน์มินิมอลสำหรับวัยทำงาน การออกแบบที่สะดุดตาจะช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งบนชั้นวางสินค้าได้อย่างชัดเจน
2. ใช้วัสดุฉลากที่มีคุณภาพและเทคนิคพิเศษ
การใช้วัสดุพรีเมียม เช่น กระดาษเนื้อด้าน หรือสติ๊กเกอร์กันน้ำ ช่วยเพิ่มความรู้สึกพรีเมียมและความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า นอกจากนี้ เทคนิคการประทับฟอยด์ที่ทำให้ฉลากมีประกายเงางาม หรือการใช้เทคนิคการพิมพ์พิเศษ จะช่วยเพิ่มมูลค่าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูหรูหรามากขึ้น
3. ใส่ข้อความกระตุ้นการซื้อและข้อมูลที่ชัดเจน
ข้อความบนฉลากควรมีคำที่กระตุ้นอารมณ์และการตัดสินใจซื้อ เช่น “ขนมสดใหม่ทุกวัน” หรือ “ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ” รวมถึงข้อมูลที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น วันผลิต วันหมดอายุ หรือข้อมูลโภชนาการ
4. ใช้ฉลากเพื่อโปรโมชันและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
ฉลากสามารถใช้สื่อสารโปรโมชั่นพิเศษ เช่น “ลด 10% สำหรับลูกค้าใหม่” หรือ “ซื้อ 1 แถม 1” รวมถึงการใช้ฉลากธีมเทศกาลหรือฉลากแนะนำสินค้าใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. เชื่อมโยงกับช่องทางออนไลน์
การเพิ่ม QR Code หรือชื่อบัญชีโซเชียลมีเดียบนฉลาก ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น หรือแชร์สินค้าในโลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้แบรนด์มีการบอกต่อและเพิ่มการรับรู้ในวงกว้าง
การออกแบบฉลากสินค้าควรใช้สีสันและรูปแบบที่สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น สีสดใสสำหรับกลุ่มเด็ก หรือดีไซน์มินิมอลสำหรับวัยทำงาน การออกแบบที่สะดุดตาจะช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งบนชั้นวางสินค้าได้อย่างชัดเจน