• 086 302 3383, 095 956 3287
  • tonchabubprint@hotmail.com, tonchabubprint@yahoo.com
  • โรงพิมพ์ ต้นฉบับ บริการงานพิมพ์ทุกชนิด ด้วยระบบออฟเซ็ท 4 สี
    Line Tonchabub

Bleed คืออะไร? ทำไมงานพิมพ์ต้องเผื่อขอบตัดตก

การออกแบบและสั่งผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น นามบัตร โบรชัวร์ ใบปลิว โปสเตอร์ หรือบรรจุภัณฑ์ สิ่งสำคัญที่นักออกแบบและลูกค้าต้องคำนึงถึงอยู่เสมอคือเรื่องของ "Bleed" หรือที่คนไทยเรียกง่ายๆ ว่า "ขอบตัดตก" ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากในการเตรียมไฟล์งานพิมพ์ที่ได้มาตรฐานและช่วยให้ผลงานออกมาสวยงามเรียบร้อย แต่สำหรับคนทั่วไปหรือผู้เริ่มต้นเข้าสู่โลกของงานพิมพ์ อาจยังไม่ค่อยเข้าใจว่าขอบตัดตกคืออะไร และทำไมถึงต้องเผื่อขอบตัดตกเสมอ
 

Bleed หรือ ขอบตัดตก คืออะไร? 

Bleed คือส่วนพื้นที่ของภาพหรืองานออกแบบที่เกินออกไปจากขนาดชิ้นงานจริง เพื่อเป็นการเผื่อพื้นที่สำหรับการตัดชิ้นงานหลังจากการพิมพ์ โดยทั่วไปแล้ว พื้นที่ Bleed จะเผื่อไว้อย่างน้อยประมาณ 3 มิลลิเมตร (0.125 นิ้ว) จากขนาดจริงของชิ้นงาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดชิ้นงานหรือรูปแบบเฉพาะที่โรงพิมพ์กำหนดไว้
       การเผื่อพื้นที่ขอบตัดตกมีความสำคัญอย่างมาก เพราะในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น ใบปลิว โบรชัวร์ หนังสือ หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ต่างๆ จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการตัดด้วยเครื่องจักร ซึ่งแม้จะเป็นเครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูง แต่ก็อาจมีโอกาสคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย โดยทั่วไปอาจคลาดเคลื่อนได้ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร

       หากงานออกแบบไม่มีการเผื่อขอบตัดตกเอาไว้ เมื่อเกิดการคลาดเคลื่อนในการตัดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ชิ้นงานมีเส้นขอบสีขาวไม่พึงประสงค์หรือถูกตัดกินเข้ามาในเนื้อหาสำคัญของงานได้ ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และความสวยงามของสื่อสิ่งพิมพ์นั้นๆ 
 

เหตุผลที่ต้องเผื่อขอบตัดตกในการออกแบบงานพิมพ์

       1.ป้องกันความผิดพลาดในการตัดงาน
ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการพิมพ์ คือการตัดแต่งขนาดชิ้นงานให้ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งเครื่องจักรตัดกระดาษสามารถมีความคลาดเคลื่อนได้ในระดับหนึ่ง การเผื่อ Bleed ไว้จะช่วยให้แม้มีการตัดคลาดเคลื่อนเล็กน้อย งานก็ยังออกมาสวยงาม ไม่มีขอบสีขาวหรือส่วนเกินที่ดูไม่เรียบร้อย

​​​​​​​       2.ทำให้งานดูเป็นมืออาชีพ 
การเผื่อขอบตัดตกเป็นมาตรฐานของวงการสิ่งพิมพ์ ซึ่งนักออกแบบมืออาชีพและโรงพิมพ์ที่มีคุณภาพจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เสมอ การออกแบบที่มีขอบตัดตกที่ถูกต้อง จะทำให้งานดูเป็นมืออาชีพ มีคุณภาพ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์หรือองค์กร

       3.ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการผลิต
เมื่อเผื่อ Bleed ไว้อย่างถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ จะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนการพิมพ์และการตัด เช่น ต้องสั่งพิมพ์ใหม่ หรือเสียเวลาแก้ไขงานซ้ำอีกครั้ง ซึ่งการเผื่อ Bleed ไว้ตั้งแต่แรกจึงช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

       4.รองรับการผลิตจำนวนมาก
หากสั่งพิมพ์งานในปริมาณมาก เช่น ใบปลิวจำนวนหลักหมื่นหรือหลักแสนแผ่น จะยิ่งมีโอกาสที่จะเกิดการคลาดเคลื่อนในการตัดงาน การเผื่อ Bleed ไว้จะช่วยให้ชิ้นงานที่ผลิตจำนวนมากยังคงรักษาคุณภาพและมีมาตรฐานเดียวกันทุกชิ้น
 

วิธีการตั้งค่า Bleed ในงานออกแบบ

ในโปรแกรม Adobe Illustrator หรือ Adobe InDesign จะมีฟังก์ชันตั้งค่า Bleed โดยสามารถกำหนดค่าได้ตามที่โรงพิมพ์แนะนำ (โดยปกติจะเป็น 3-5 มิลลิเมตร) 

หากใช้ Photoshop ออกแบบงาน ก็สามารถเพิ่มขนาดของ Canvas เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 3 มิลลิเมตรจากขนาดจริง และวางองค์ประกอบต่างๆ เผื่อออกไปยังพื้นที่ที่เพิ่มเข้ามา
 

ข้อแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอบตัดตก

  1. อย่าวางข้อความหรือองค์ประกอบสำคัญไว้ใกล้ขอบตัด ควรวางองค์ประกอบสำคัญห่างจากเส้นขอบอย่างน้อย 5-10 มิลลิเมตร เพื่อป้องกันการตัดกินเข้ามาในเนื้อหาสำคัญ 
  2. ปรึกษาโรงพิมพ์ก่อนออกแบบ เพื่อทราบขนาด Bleed ที่เหมาะสมกับเครื่องจักรของโรงพิมพ์นั้นๆ 
  3. ตรวจสอบงานทุกครั้งก่อนส่งพิมพ์ ว่ามีการเผื่อขอบตัดตกอย่างถูกต้องแล้ว เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น 

สรุปความสำคัญของ Bleed หรือขอบตัดตก

Bleed หรือขอบตัดตกเป็นสิ่งสำคัญที่นักออกแบบและผู้สั่งพิมพ์งานควรเข้าใจและใส่ใจอย่างมาก เพราะการเตรียมไฟล์งานพิมพ์ที่ถูกต้องจะช่วยให้งานพิมพ์ออกมาสมบูรณ์แบบ ดูสวยงาม และมีคุณภาพมาตรฐาน อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการผลิต ลดต้นทุนการผลิตซ้ำ และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์หรือองค์กรได้อีกด้วย 

ดังนั้นก่อนที่คุณจะส่งไฟล์งานพิมพ์ให้โรงพิมพ์ ควรตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าคุณได้เผื่อ Bleed หรือขอบตัดตกเอาไว้อย่างเหมาะสม เพื่อให้งานพิมพ์ที่ได้ออกมามีคุณภาพดีเยี่ยมและตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด